สุนัขเฝ้าบ้าน

สุนัขเฝ้าบ้าน

สุนัขเฝ้าบ้าน

หมาเฝ้าบ้าน 7 อันดับที่โหดที่สุด

หมาเฝ้าบ้าน 7 อันดับที่โหดที่สุด
4 .  ร็อดไวเลอร์


          ร็อทไวเลอร์ สุนัขขนาดใหญ่สายพันธุ์นี้ เคยถูกเลี้ยงไว้ใช้งานในการคุ้มกันกองคาราวานสินค้า ในประเทศแถบยุโรป ครั้งหนึ่งเมื่อเสร็จจากงาน เจ้าของกองคาราวานสินค้าได้นำสุนัขเข้ามาพักผ่อนในเมือง ปรากฏว่า ชายขี้เมาคนหนึ่งพยายามเข้ามาทำร้ายเจ้าของ สุนัข "ร็อตไวเลอร์" จึงเข้าปกป้อง เมื่อหลายคนเห็นว่าสุนัขพันธุ์นี้มีทั้งพละกำลัง และความดุร้ายหวงแหนเจ้าของ จึงนำมาเพาะเลี้ยงใช้งานลักษณะนี้มาถึงปัจจุบัน และพันธุ์ของเจ้าสุนัข ร็อตไวเลอร์ ที่โด่งดังสุด เห็นจะเป็นพันธุ์ที่มาจาก 3 ประเทศหลัก คือ เยอรมนี สหรัฐอเมริกา และยูโกสลาเวีย


           ร็อทไวเลอร์ สายพันธุ์ที่มาจากประเทศเยอรมนี ถือว่าเป็น ร็อตไวเลอร์ ที่ดุร้ายและก้าวร้าวที่สุด เนื่องจากธรรมชาติและเป้าหมายของการเพาะเลี้ยงในประเทศนี้มักใช้งาน "ร็อตไวเลอร์" ในการคุ้มกันบุคคล-อารักขาอาณาบริเวณ การคัดเลือกสายพันธุ์ รวมถึงการฝึกจึงเน้นลักษณะการใช้งานเป็นหลัก สุนัขทุกตัวจึงต้องผ่านการตรวจจิตประสาท ก่อนจะนำไปขึ้นทะเบียนด้วย

          
           ในสหรัฐอเมริกา จะเพาะเลี้ยง "ร็อตไวเลอร์" ในลักษณะสุนัขเข้าสังคม ใจดี ใช้ชีวิตอยู่กับผู้คนในบ้าน  ฝึกให้มีความสงบ ไม่ก้าวร้าว ถึงขนาดการประกวดสุนัขพันธุ์นี้ในสหรัฐ มีข้อกำหนดว่ากรรมการต้องสามารถอ้าปากได้โดยไม่ถูกกัด หาก สุนัข ร็อทไวเลอร์ มีอาการก้าวร้าวจะถูกตัดสิทธิ์ทันที 

           ขณะที่ประเทศยูโกสลาเวีย จะนำลักษณะเด่นของ ร็อทไวเลอร์ ทั้งสายพันธุ์สหรัฐฯ และเยอรมนี มารวมกันคือ ทั้งบึกบึน สงบ รวมถึงการฝึกคุ้มกันและอารักขาไปในตัวด้วย



3 . ฟิล่า บราซิเลียโร่



ฟิล่า คือสุนัขที่จัดอยู่ในกลุ่ม Molossoid breed ขนาดใหญ่ มีหนังย่นมาก และมีความเข้มแข็ง มั่นใจในตัวเองสูง ในโปรตุเกส คำว่า "ฟิล่า" หมายถึง การจับแล้วยึดไว้อย่างมั่นคง นั่นหมายถึง ถ้าฟิล่าได้กดอะไรก็ตามไว้ในปากแล้ว โอกาสที่มันจะปล่อยนั้นยากมาก คือ กัดไม่ปล่อยนั่นเอง

         ทั้งนี้ มีอยู่หลายทฤษฎี เกี่ยวกับที่มาของสุนัข ฟิล่า ทฤษฎีแรกเริ่มต้นในศตวรรษที่ 1700  ในสมัยที่ชาวบราซิลยังคงอยู่ภายใต้อาณานิคมของโปรตุเกส สุนัขฟิล่าเกิดจากการผสมระหว่าง ปลัดฮาวน์ โอลด์ อิงลิช มาสทิฟฟ์ และสุนัขพันธุ์บูลด็อก สายบูลเลนเบซเซอร์ ซึ่งปัจจุบัน ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว อีกทฤษฎีเชื่อว่า ต้นตำรับของสุนัขพันธุ์ฟิล่า มาจากสุนัขในอดีตกาล สมัยโบราณจากแคว้นฟอร์เตเทส และยังมีอีกความเชื่อที่บอกว่า สุนัขฟิล่านั้น เกิดมาจากากรผสมกันระหว่าง บลัด ฮาวน์ มาสทิฟฟ์ บูลด็อก แล้วนำไปผสมกับหมาป่า ประเทศเทศบราซิล และสุนัขบ้านธรรมดา 


         ส่วนการพัฒนาสายพันธุ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 35 ปี มาแล้ว โดยชาวดัตช์ ได้นำสุนัขมาด้วยเมื่อเดินทางมาถึงบราซิล สุนัขฟิล่าเลี้ยงไว้เพื่อล่าสัตว์จำพวกเสือ และสัตว์ดุร้ายอื่นที่กินเนื้อเป็นอาหาร


         รูปร่างที่ใหญ่โต โครงสร้างหัวกะโหลกขนาดใหญ่ของฟิล่านั้น ได้มาจากมาสทิฟฟ์ ลำคอที่ใหญ่โตล่ำสัน แนวสะโพกที่ลาดต่ำลง โคนหางใหญ่ จิตใจที่กล้าหาญ มาร์คกิ้งสีดำที่หน้า และสีที่เหมือนสุนัขมาสทิฟฟ์ สิ่งเหล่านี้ ฟิล่า ได้รับมาจากบรรพบุรุษของมันคือ สุนัขมาสทิฟฟ์ นั่นเอง หนังที่ย่นได้มาจากคุณสมบัติของสุนัข บลัด ฮาวน์ ซึ่งหนังที่ย่นมากนี้ เป็นเครื่องป้องกันกรงเล็บของเสือ และหนามแหลมคมในขณะที่ทำงานในฟาร์มได้เป็นอย่างดี


         บุคลิกภาพที่ดูเหมือนเหม่อลอย หูรูปสามเหลี่ยมที่ตกอยู่ตลอดเวลา ริมฝีปากที่ห้อย เหนียงที่ห้อยยานอย่างเห็นได้ชัด จมูกที่ไว แล้วเสียงเห่าอย่างต่อเนื่องดุดัน ได้มาจากคุณสมบัติของสุนัข บลัด ฮาวน์ และคุณสมบัติที่ฟิล่าได้จากบูลด็อก ก็คือ ความสามารถในฟาร์ม ที่สามารถต้นฝูงวัวได้ ทนทานต่อบาดแผลความเจ็บปวด และความดุดันกล้าหาญอย่างยอดเยี่ยมแบบบูลด็อก


         สุนัขฟิล่า จะมีหูที่ยาวและตก มีขาหลังที่ยาวและตะโพกที่สูงกว่าส่วนของหัวไหล่ มากกว่า 300 ปีมาแล้วที่ฟิล่า ยังคงลักษณะและคุณสมบัติเฉพาะตัวไว้โดยไม่เปลี่ยนแปลง สุนัขฟิล่า จะใช้สำหรับเลี้ยงสัตว์ในฟาร์ม ล่าสัตว์ และเป็นสุนัขเฝ้ายาม สุนัขฟิล่านั้นจะไม่ชอบคนแปลกหน้าเอามาก ๆ ในทางตรงกันข้าม ฟิล่าจะเชื่องกับเจ้าของมาก และเป็นสุนัขที่รักและอ่อนโยนกับเด็ก อย่างไรก็ตาม สุนัขฟิล่านั้น อาจจะไม่ใช่สุนัขที่เหมาะสำหรับทุกคนเสมอไป การที่ฟิล่าเป็นสุนัขที่ดุดันก้าวร้าวกับคนแปลกหน้ามราก ก็อาจจะไม่เหมาะสมนักกับในบางสถานที่และสถานการณ์




การฉีดวัคซีน หมาเฝ้าบ้าน สุนัขเฝ้าบ้าน

 การฉีดวัคซีน หมาเฝ้าบ้าน  


           หมาเฝ้าบ้าน   มักจะมีความเสี่ยงจากโรคร้ายต่างๆ ซึ่งเป็นอันตรายต่อหมาเฝ้าบ้าน    และทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการรักษา

           การทำวัคซีนหมาเฝ้าบ้าน   จะช่วยป้องกันหมาเฝ้าบ้าน   เจ็บป่วยหรือเกิดโรค ซึ่งอาจแพร่ระบาดไปยังสุนัขตัวอื่นๆได้
     
การขยายพันธุ์สุนัข  

           ทุกๆ ปี หมาเฝ้าบ้าน   เป็นจำนวนนับพันนับหมื่นถูกทำลาย เพราะไม่มีที่อยู่อาศัยที่เพียงพอ

           สุนัขเพศเมียสามารถให้กำเนิดลูกสุนัขได้ เป็นจำนวนหลายๆ ตัวในแต่ละปี ภายในระยะเวลา 6 ปี สุนัขแต่ละคู่สามารถผลิตลูกได้ถึง 67,000 ตัว โดยการให้กำเนิดและเลี้ยงลูก

           การฉีดวัคซีน  หมาเฝ้าบ้าน   แม่สุนัขจะมีสุขภาพทรุดโทรมลง

           แม่สุนัขที่ตั้งท้อง ย่อมต้องการอาหารเป็นพิเศษ


           ลูกหมาเฝ้าบ้าน   ตามปกติจะกินน้ำนมจากแม่ประมาณ 3 สัปดาห์ แล้วจะเริ่มกินอาหารได้ด้วยตัวเอง

           แม่หมาเฝ้าบ้าน   ตามปกติจะดุและหวงลูกๆในช่วงเวลาดังกล่าว จึงควรจัดสถานที่ที่เงียบสงบปราศจากการรบกวนให้แม่สุนัขกับลูกๆได้อยู่

           การฉีดวัคซีน  หมาเฝ้าบ้าน เพื่อป้องกันในกรณีที่ไม่ต้องการลูกหมาเฝ้าบ้าน    โปรดนำหมาเฝ้าบ้าน   ของท่านไปตอน/ทำหมัน จากสัตวแพทย์

การแปรงและทำความสะอาดขน  

           การแปรงขนเป็นประจำจะทำให้สุนัขสะอาดปราศจากกลิ่นหมักหมมแลดูเรียบร้อยและในขณะเดียวกันจะช่วยตรวจสอบพวกปรสิตได้

           การแปรงขนจะช่วยให้สุนัขเกิดความเคยชินเป็นนิสัยอีกด้วย

หมาเฝ้าบ้าน 7 อันดับที่โหดที่สุด

หมาเฝ้าบ้าน 7 อันดับที่โหดที่สุด
7 . อัลเซเซี่ยน 


เยอรมันเชเพิร์ด (German Shepherd) หรือ อัลเซเชียน (Alsatian) เป็นสายพันธุ์สุนัขมีถิ่นกำเนิดในประเทศเยอรมัน ในงานของสุนัขตำรวจ ได้มีการนำสุนัขสายพันธุ์นี้มาใช้ในการดมกลิ่นเพื่อตรวจค้นอาวุธ วัตถุระเบิด ยาเสพติด และยังพบว่าได้มีการนำสุนัขสายพันธุ์นี้มาใช้ในงานอื่น เช่น งานหน่วยกู้ภัย งานนำทางคนตาบอด งานคุ้มกัน
เยอรมันเชเพิร์ดยังไม่มีใครรู้จัก จนกระทั่งปี 1899 ร้อยเอก มาซ โฟน สเตฟานิทซ์ (Max von Stephanitz) เพาะพันธุ์สุนัขสายพันธุ์นี้ขึ้นใช้งาน และผู้เพาะพันธุ์มากมายในปัจจุบันยังคงรักษาลักษณะที่ดีของสุนัขพันธุ์นี้ไว้ ไม่ว่าจะเป็นความไว้ใจได้ หรือความจงรักภักดี ทำให้เยอรมันเชเพิร์ดเป็นเพื่อนที่ดีเลิศ เยอรมันเชเพิร์ดมีช่วงชีวิตเฉลี่ยได้ถึง 10 ปี มีความสูง 55-65 เซนติเมตร และมีน้ำหนักเฉลี่ย 22-40 กิโลกรัม
อ้างอิง http://th.wikipedia.org/ 

6 . โดเบอร์แมน 


Doberman Pinscher
โด เบอร์แมน หรือ โดเบอร์แมนน์ มีถิ่นกำเนิดในเยอรมันในศตวรรษที่ 19 นายฮอร์ ลูอิส โดเบอร์แมนน์ อาศัยย่ในเมืองอพอลโด(เยอรมันตะวันออก)ในอาณาจักรของเธอริงเจนเขารับราชการ เป็นผู้เก็บภาษีที่มีสุนัขคอยดินตามปกป้องเขา นายฮอร์โดเบอร์แมนน์ต้องการสุนัขเฝ้ายามที่ปราศจากความกลัวจึงเริ่มต้นคัด เลือกสุนัขเพื่อทำการเพาะพันธุ์ให้ได้สุนัขตามที่เขาต้องการ ไม่มีใครรู้แน่ว่าเขาผสมโดยใช้สายันธุ์ใดบ้างแต่ได้ยินว่าอาจเป็นเกรตเดน เยอรมันเชพเพิร์ดสายดั้งเดิมไม่ใช่เยอรมัน เชพเพิร์ดที่เรารู้จักในปัจจุบัน) ไวมาราเนอร์ แมนเชสเตอร์เทอร์เรีย์เกรยฮาวนด์และพันธุ์อื่นๆ อีกมากมายลอดชีวิต60 ปีกับการผสมข้ามสายพันธุ์นายเฮอร์โดเบอร์แมนน์ ประสบความสำเร็จอย่างมากในการคัดเลือกสายพันธุ์เพื่อใช้เป็นสุนัขเฝ้ายามที่ ต้องการหน่วยเมริกันมารีนส์รู้จักโดเบอร์แมน กันในนาม"สุนัขปีศาจ"และใช้มันเป็นสัญลักษณ์ของหน่วยในช่วงสงครามโลกครั้ง ที่ 2 ในแปซิฟิค โดยถูกนำขึ้นฝั่งพร้อมกับทหารเรือเพื่อไล่ล่าศัตรู


5 . บางแก้ว 



ประวัติความเป็นมาของสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว จากข้อมูลที่ได้สอบถามจากประชาชนตลอดจนผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้านบางแก้ว ตำบลท่านางงาม และบ้านชุมแสงสงคราม ตำบลชุมแสงสงคราม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก พอจะสรุปได้ว่า แหล่งกำเนิดของสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วนั้นอยู่ที่วัดบางแก้ว ตำบลท่านางงาม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำยม สภาพภูมิประเทศทั่ว ๆ ไปนั้นยังคงเป็นป่าพง ป่าระกำ ป่าไผ่ และต้นไม้ชนิดต่าง ๆ ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นเหมาะสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ ชุกชุม เช่นช้างป่าเป็นโขลง ๆ หมูป่า ไก่ป่า สุนัขจิ้งจอก และหมาใน
หลวงพ่อมาก เมธาวี เป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 3 ของวัดบางแก้ว ที่วัดของท่านเลี้ยงสุนัขไว้ไม่ต่ำกว่า 20-30 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสุนัขที่ดุขึ้นชื่อลือชา และชาวบ้านทราบกันดีว่า ใครที่เข้ามาในวัดแต่ละครั้งจะต้องตะโกนให้เสียงแต่ไกล ๆ เพื่อให้พระอาจารย์มาก เมธาวี ท่านช่วยดูหมาเอาไว้ก่อน มิฉะนั้นจะถูกมันไล่กัด ด้วยกิตติศัพท์ในความดุของสุนัขที่วัดบางแก้วนี้เอง จึงมีผู้คนนิยมมาขอลูกสุนัขไปเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน เฝ้าเรือน เฝ้าเรือ เฝ้าแพ เฝ้าวัว เฝ้าควาย พื้นที่ที่สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วได้ขยายพันธุ์ไปมากที่สุดก็คือ ตำบลท่านางงามและตำบลชุมแสงสงคราม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก แต่ในปัจจุบันได้ขยายวงกว้างออกไปหลายจังหวัด[ต้องการอ้างอิง]
เหตุผลที่สันนิษฐานว่า สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วเป็นสุนัขลูกผสมสามสายเลือด เพราะพื้นที่ในเขตตำบลท่านางงาม ตำบลชุมแสงสงคราม อำเภอบางระกำ ในอดีตนั้นเป็นป่าดงพงพีที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด รวมทั้งสุนัขจิ้งจอกและหมาในอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โอกาสที่สุนัขจิ้งจอกและหมาในตัวผู้จะมาแอบลักลอบเข้ามาผสมพันธุ์กับสุนัขไทยตัวเมียที่เลี้ยงไว้ในวัดบางแก้วนั้นมีความเป็นไปได้สูงมากทีเดียว เพราะสุนัขป่าทั้งหลายนี้เป็นสุนัขที่กล้าหาญชาญชัย ว่องไว ใจปราดเปรียว แข็งแรง ซึ่งเรื่องนี้ อาจารย์ท่านหนึ่งของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์[ต้องการอ้างอิง] ได้ตรวจโครโมโซมของสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วแล้วพบว่ามีโครโมโซมของสุนัขจิ้งจอกปะปนในโครโมโซมของสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว ซึ่งเป็นการยืนยันทางวิทยาศาสตร์ว่าสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วสืบเชื้อสายจากสุนัขลูกผสมระหว่างสุนัขบ้านกับสุนัขจิ้งจอก สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วจึงมีลักษณะดีเด่นปรากฏโฉมออกมาคือ มีขนยาว ขนมีลักษณะเป็นขนสองชั้นคล้าย หางเป็นพวงสวยงาม มีขนแผงคอคล้ายแผงคอสิงโต ดุ เฉลียวฉลาด มีไอคิวสูง ไม่แพ้สุนัขพันธุ์ต่างประเทศ มีความสวยงาม
อ้างอิง http://th.wikipedia.org/ 



หมาเฝ้าบ้าน 7 อันดับที่โหดที่สุด


สุขนัขเฝ้าบ้าน 7 อันดับที่โหดที่สุด
 สุนัขพันธุ์ทิเบตัน มาสทิสส์


มันเป็นหมาเฝ้าบ้าน   สายพันธุ์โบราณ
ถิ่นที่อยู่ บริเวณเอซียกลาง และอินเดีย
มี ชื่อเรียกในภาษาท้องถิ่นว่า Do-khyi ซึ่งแปลว่า สุนัขที่ต้องถูกผูกไว้ (tied dog) เนื่องจากอุปนิสัยที่หวงถิ่นฐาน และดุร้าย จึงต้องผูกไว้เพื่อความปลอดภัยของบุคคลภายนอก
ขนาดและน้ำหนักใหญ่ที่สุดที่เคยมีบันทึกไว้ สูงกว่า 80 เซ็นติเมตร หนักกว่า 110 กิโลกรัม
ขนาดความสูงตัวมาตรฐาน 61 - 72 เซ็นติเมตร
น้ำหนักตัวมาตรฐาน 45 - 72 กิโลกรัม
มีลักษณะขนสองชั้น และยาว เพื่อป้องกันความหนาวเย็น
มาร์โคโปโล( Marco Polo ) เคยบันทึกการพบเห็นสุนัขพันธุ์นี้ไว้ว่า " พวกมันสูงเท่าลา และมีเสียงดังดุจสิงโต "
พวก มันเป็น 1 ในสายพันธุ์สุนัข ที่ หายากที่สุดในโลก สายพันธุ์หนึ่ง คาดการว่ามีสายพันธุ์แท้หลงเหลืออยู่เพียง ประมาณ 100 ตัวเท่านั้น
พวก มันเป็น 1 ในสายพันธุ์สุนัข ที่ ดุร้ายที่สุดในโลก สายพันธุ์หนึ่ง โดยชาวธิเบต กล่าวว่าพวกมัน ดุร้าย กล้าหาญ และแข็งแกร่งจนสามารถต่อสู้กับหมี หรือ เสือ ที่บุกเขามากินฝูงสัตว์ที่มันดูแลได้ทีเดียว
พวกมันเป็น 1 ในสายพันธุ์สุนัข ที่ ตัวใหญ่ที่ในโลก สายพันธุ์หนึ่ง ด้วยส่วนสูงมากสุดกว่า 80 เซ็นติเมตร หนักกว่า 110 กิโลกรัม
ด้วยทั้งหลายทั้งมวลนี้ทำให้ สุนัขสายพันธุ์ทิเบตัน มาสทิสส์ เป็น สุนัข ที่ แพงที่สุดในโลก ไปในโดยปริยาย


หมาเฝ้าบ้าน   อเมริกัน พิทบูล เทอเรียร์ 



อเมริกันพิทบูล เทอร์เรีย (American Pit Bull Terrier) หรือที่เรียกกันว่า พิทบูล แค่เอ่ยถึงชื่อสุนัขพันธุ์นี้ก็อาจทำเอาหลายคนออกอาการหวั่นๆ ซะแล้ว ก็สุนัขสายพันธุ์ พิทบูล น่ะดังก้องไปทั่วโลกในเรื่องความดุร้าย และมักจะถูกประโคมข่าวเมื่อ พิทบูล กัดคนบาดเจ็บและเสียชีวิต  โดยเฉพาะกรณีที่เกิดขึ้นกับเจ้าของ ทำให้ภาพของ อเมริกันพิทบูล ในเวลานี้อาจไม่สู้ดีนัก และเป็น สุนัข ควบคุมพิเศษในหลายประเทศ ซึ่งประเทศไทยกรมปศุสัตว์สั่งห้ามนำเข้าสุนัขพันธุ์ พิทบูล โดยเด็ดขาด แต่ในประเทศไทยยังลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายอยู่ รวมถึงมีการเลี้ยงอยู่เดิมแล้วจำนวนหนึ่ง

          แม้ว่า หมาเฝ้าบ้าน   พิทบูล จะมีนิสัยพื้นฐานที่ดุร้าย แต่ สุนัข พิทบูล ก็ขึ้นชื่ออย่างมากในเรื่องความจงรักภักดี มันสามารถตายแทนเจ้าของได้ดังจะเห็นได้จากในอดีตที่ผู้เสี้ยงมักนำมันสู่สังเวียนการต่อสู้ พิทบูล จะสู้จนตัวตายตามใบสั่งของเจ้าของ ดังคำกล่าวที่ว่า "ทาสผู้ภักดี ปีศาจสังหาร"  


          หมาเฝ้าบ้าน   พิทบูล ถูกพัฒนามาจากสายพันธุ์ของ สุนัข บูลด๊อก เดิมทีเป็น สุนัข อเมริกันพิทบูล ที่ใช้งานต้อนฝูงสัตว์ (Cattie dog) เป็นสุนัขเลี้ยงแกะ (Shepherds) แต่ต่อมาสุนัขเหล่านั้นถูกนำมาผสมข้ามสายพันธุ์ จนเกิดสายพันธุ์ใหม่ จนได้ อเมริกันพิทบลู ที่มีฟันและกรามที่แข็งแกร่ง ทรงพลัง มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ และมีความว่องไวสูง และ พิทบูล ก็ถูกนำมาใช้ในกีฬาสู้วัว (Bullbaiting) แต่ภายหลังกีฬาชนิดนี้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย กลุ่มคนที่ชื่นชอบในกีฬาดังกล่าวจึงหันมาจับสุนัขสู้กับสุนัขแทน ทำให้ อเมริกันพิทบลู กลายเป็นสุนัขที่ขึ้นชื่อว่ามีพละกำลังมากที่สุด เท่าที่มีการพัฒนาสายพันธุ์กันมา ในความแข็งแรง ดุร้าย เสน่ห์ของ พิทบูล อยู่ที่ความจงรักภักดี มีอารมณ์คงที่ต่อมนุษย์


          ที่มาของชื่อพันธุ์ พิทบูล จึงได้มาจากกีฬาสู้วัวนั่นเอง ส่วนคำว่า Pit มาจากคำที่แปลว่า หลุม คือ ในการคัดเลือกสายพันธุ์ในสมัยโบราณ พิทบูล สองตัวจะถูกนำไปปล่อยในหลุมที่คนขุดขึ้น ตัวไหนรอดจากการกัดกันก็จะปีนขึ้นจากหลุม  พิทบูล ตัวนั้นจึงจะได้ดำรงพันธุ์ต่อไป ด้วยเหตุนี้ พิทบูล จึงมีความอดทนและมีความมุ่งมั่นสูงกว่า สุนัข ทั่วๆ ไป อย่างไรก็ตาม พิทบลู มีทั้งสายพันธุ์ที่มีไว้กัด และสายพันธุ์โชว์


          ด้วยธรรมชาติกัดไม่ปล่อย หมาเฝ้าบ้าน    สายพันธุ์นี้ ถือเป็นนักล่าโดยกำเนิด พิทบูล ล่าได้ตั้งแต่ นก หนู ไปจนถึงหมูป่า มันมีความกล้าฝังลึก พิทบูล มีความอดทนต่อความเจ็บปวดทุกรูปแบบ แม้บาดแผลนั้นจะลึกและฉกรรจ์เพียงใด ไม่มีการโต้ตอบจากศัตรูใดที่จะทำให้มันร้องได้


          ส่วนใครที่ไม่ชอบเสียงเห่าหอน น่ารำคาญของ สุนัข แต่ให้จำไว้เถิดว่าหากคุณเลี้ยง อเมริกันพิทบูล จะไม่ผิดหวัง เพราะ พิทบูล จะไม่ใช่ สุนัข ประเภท เห่าใบตองแห้ง ดังนั้น การที่เจ้า พิทบูล เห่ายอมมีเหตุผลเสมอ ไม่แน่สิ่งที่มันเห็นอาจเป็นสัตว์ร้าย คนแปลกหน้า หรือผู้ไม่ประสงค์ดี อย่างน้อยก็ช่วยให้คุณรับรู้สัญญาณเตือนอันไม่น่าไว้วางใจได้จากเจ้า สุนัข พันธ์นี้อย่างแน่นอน


          ส่วนข้อกังขากรณี พิทบูล ทำร้ายเจ้าของ หากผู้เลี้ยงเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดีเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แทบจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ทั้งนี้ หากคุณต้องเข้าบ้านในยามวิกาล จงระลึกไว้เสมอว่า หมาเฝ้าบ้าน    จะมองเห็นเป็นภาพขาวดำเท่านั้น จึงควรเรียกชื่อของเขาก่อนเปิดประตูเข้าบ้าน เพราะบางทีเราอาจอยู่ในตำแหน่งใต้ลม เขาจึงอาจไม่ได้กลิ่นเจ้าของ ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนร้าย จึงควรเรียกชื่อของเขาก่อน เพราะ อเมริกันพิทบลู จะหวงเจ้าของ หวงบ้าน หากมีผู้ไม่ประสงค์ดีกล้ำกรายเข้ามา ...รับประกันเสร็จแน่!!!



การออกกำลังกายหมาเฝ้าบ้าน

การออกกำลังกายหมาเฝ้าบ้าน    


           ไม่ควรผูกสุนัขไว้ตลอดเวลา เพราะสุนัขต้องการออกกำลังกายสม่ำเสมอ

           ควรให้สุนัขได้มีโอกาสออกเดินในแต่ละวัน หรือเล่นสนุกกับของเล่นหรือลูกบอล ซึ่งจะทำให้สุนัข กระฉับกระเฉง กระปรี้กระเปร่า ไม่ซึมเศร้า

           การออกกำลังกายหมาเฝ้าบ้าน    สุนัขที่ถูกกักไว้มักจะเห่าหอนรบกวนเพื่อนบ้าน

หมาเฝ้าบ้าน ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด


หมาเฝ้าบ้าน ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด

ได้แก่สุนัขพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ด (Saint Bernard) ที่มีชื่อ Schwarz Wald Hot Duke เจ้าของ ชื่อ Dr.A.M. Brunner แห่งโอโดโนโมว๊อค รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา Duke เกิดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ.1964 และในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ.1967 หรืออายุได้ 2 ปี 7 เดือน นั้นมีน้ำหนักตัวถึง 295 ปอนด์ (2.2 ปอนด์ต่อ 1 กก.)และเจ้า Duke ได้เสียชีวิตเมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1967 รวมอายุตั้งแต่เกิดจนตาย ได้เพียง 2 ปีกับ 9 เดือน

อนามัย หมาเฝ้าบ้าน

อนามัย  หมาเฝ้าบ้าน

สุนัขที่ไม่ได้รับการเหลียวแล มักจะเกิด ไร ริ้น หมัด เหา และสัตว์กินเลือดต่างๆรบกวน โปรดปรึกษากับสัตวแพทย์



       อนามัย  หมาเฝ้าบ้าน     รักษาสุนัขและที่อยู่อาศัยของเขาให้สะอาดเสมอ

หมาแก่ หมาเฝ้าบ้าน

หมาแก่ สุนัขเฝ้าบ้าน 

เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนค่ะว่า ช่วงอายุของน้องหมาเมื่อเทียบกับมนุษย์แล้ว อายุของน้องหมาจะก้าวกระโดดเร็วกว่าอายุของมนุษย์อย่างเราๆ ประมาณ 7 เท่าตัว ซึ่งน้องหมาที่มีอายุมากกว่า 7 ปีขึ้นไปถือเป็นน้องหมาที่เริ่มก้าวเข้าสู่วัยแก่ที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษแล้วล่ะค่ะ โดยเราสามารถสังเกตจากภายนอกได้ง่ายๆ คือ

- จะเริ่มพบเห็นขนบริเวณใบหน้าหรือรอบปากที่เปลี่ยนเป็นสีขาว หรือสีเทา
- ฟันผุ
- เล็บหลุด
- บางตัวจะเริ่มลุกขึ้นยืน เดิน หรือเปลี่ยนอิริยบทท่าต่างๆ ได้ช้าลง
- ขนร่วง
- หูจะเริ่มไม่ค่อยดี
- ตามองไม่ค่อยเห็น
- กินอาหารได้น้อยลง
- อั้นอึฉี่ไม่ค่อยได้
ฯลฯ


หมาแก่ คือ ปัญหาพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากตอนเป็นสุนัขวัยรุ่น เช่น เดินวนไปวนมาอยู่ที่เดิม เห่าไม่รู้สาเหตุ สนใจสิ่งแวดล้อมและเจ้าของลดลง เดินชนสิ่งของต่างๆ อึฉี่ไม่เป็นที่ นอนไม่เป็นเวลา นอนกลางวันตื่นตอนกลางคืน เป็นต้น (อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติกรรมของน้องหมาแก่ได้ที่บทความ 10 พฤติกรรมแปลกๆ ของน้องหมาแก่ )

     ปัญหาเหล่านี้มักเกิดจากอาการหลงลืมหรือโรคอัลไซเมอร์ (canine cognitive dysfunction syndrome) ที่พบมากในน้องหมาแก่ (อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โรคอัลไซเมอร์ในสุนัข ) ซึ่งเป็นความผิดปกติของการรับรู้ และความคิด ทำให้สมองไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ส่งผลต่อการเคลื่อนไหว การควบคุมอารมณ์ ความทรงจำ ทำให้น้องหมาไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันเหมือนปกติได้ ซึ่งผู้เลี้ยงเองก็ควรทำความเข้าใจ และเรียนรู้กับพฤติกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับน้องหมาแก่ อย่าลงโทษน้องหมาด้วยการตีเพราะเขาอาจจะไม่รู้ตัวว่าเขากำลังทำผิด แต่ให้กระตุ้นความทรงจำน้องหมาโดยการหาเกมส์ สั่งให้ทำตามคำสั่ง หรืออาจจะย้ายตำแหน่งชามข้าวเพื่อฝึกประสาทการดมกลิ่น และฝึกให้น้องหมาได้ใช้สมอง

การให้อาหารและน้ำดื่ม สุนัขเฝ้าบ้าน


การให้อาหารและน้ำดื่มหมาเฝ้าบ้าน   


           สุนัขเฝ้าบ้าน   ต้องการสารอาหารเพื่อสร้างสมดุลร่าง กาย ประกอบด้วย โปรตีน และไฟเบอร์ อาหารเหลือจากครัวเรือน ย่อมไม่เพียงพอที่จะสร้างความแข็งแรง และรักษาสุขภาพที่ดีของร่างกายสุนัขได้

           อาหารที่เป็นเศษกระดูกแหลมคม อาจจะทิ่มลำคอหรือก่อให้เกิดปัญหาในลำไส้ ถ้าสุนัขกลืนเข้าไป

           น้ำควรจะมีให้สุนัขได้ดื่มกินเสมอในภาชนะที่สะอาด

วิวัฒนาการด้านโมเลกุลของสุนัข หมาเฝ้าบ้าน


วิวัฒนาการด้านโมเลกุลของสุนัขชี้ให้เห็นว่าสุนัขเลี้ยงนั้น (Canis lupus familiaris) สืบทอดมาจากจำนวนประชากรหมาป่า (Canis lupus) เพียงตัวเดียวหรือหลายตัว สะท้อนให้เห็นถึงการตั้งชื่อพวกมัน สุนัขสืบทอดจากหมาป่าและสามารถผสมข้ามพันธุ์กับหมาป่าได้ด้วย
ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสุนัขนั้นถูกฝังลึกในด้านโบราณคดีและหลักฐานที่ตรงกันชี้ให้เห็นช่วงเวลาของการทำให้สุนัขเชื่องในยุคหินใหม่ ใกล้ ๆ กับขอบเขตของช่วงเพลสโตซีนและโฮโลซีน ในระหว่าง 17,000 - 14,000 ปีมาแล้ว ซากกระดูกฟอสซิลและการวิเคราะห์ยีนของสุนัขในยุคอดีตกับปัจจุบัน และประชากรหมาป่ายังไม่ถูกค้นพบ สุนัขทั้งหมดสืบอายุอาจเกิดจากเหตุการณ์ที่ทำให้เชื่องด้วยตัวเองหรือไม่ก็ได้ถูกทำให้เชื่องด้วยตัวมันเองในพื้นที่มากกว่าหนึ่งพื้นที่ สุนัขที่ถูกเลี้ยงให้เชื่องแล้วอาจจะผสมข้ามพันธุ์กับประชากรหมาป่าที่อยู่ในถิ่นนั้น ๆ ในหลาย ๆโอกาส กระบวนการนี้รู้จักในทางทางพันธุศาสตร์ว่า อินโทรเกรสชัน (Introgression)
ในยุคแรก ๆ ฟอสซิลสุนัข กะโหลก 2 จากรัสเซียและขากรรไกรล่างจากเยอรมนี พบเมื่อ 13,000 ถึง 17,000 ปีมาแล้ว บรรพบุรุษของมันเป็นหมาป่าโฮลาร์กติก (Canis lupus lupus) ซากศพของสุนัขตัวเล็กจากถ้ำของสมัยวัฒนธรรมนาทูเฟียนของยุคหินได้ถูกเก็บไว้ในแถบตะวันออกกลาง มีอายุราว 12,000 ปีมาแล้ว เข้าใจว่าเป็นทายาทมาจากหมาป่าในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภาพศิลปะบนหินและซากกระดูกชี้ให้เห็นว่า เป็นเวลากว่า 14,000 ปีมาแล้วที่สุนัขในที่นี้กำเนิดจากแอฟริกาเหนือข้ามยูเรเชียไปถึงอเมริกาเหนือ หลุมฝังศพสุนัขที่สุสานยุคหินของเมืองสแวร์ดบอร์กในประเทศเดนมาร์กทำให้นึกไปถึงในยุคยุโรปโบราณว่าสุนัขมีค่าเป็นถึงเพื่อนร่วมทางของมนุษย์
การวิเคราะห์ทางยีนได้ให้ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่เหมือนกันมาจนถึงทุกวันนี้ วิล่า ซาโวไลเนน และเพื่อนร่วมงาน พ.ศ. 2540 สรุปว่าบรรพบุรุษของสุนัขได้แยกออกจากหมาป่าชนิดอื่น ๆ มาเป็นเวลาระหว่าง 75,000 ถึง 135,000 ปีมาแล้ว เมื่อผลการวิเคราะห์ที่ตามมาโดยซาโวไลเนน พ.ศ. 2545 ชี้ให้เห็น เผ่าพันธุ์ดั้งเดิมจากกลุ่มยีนสำหรับประชากรสุนัขทั้งหมด ระหว่าง 40,000 ถึง 15,000 ปีมา
แล้ว ในเอเชียตะวันออก เวอร์จีเนลลี่ พ.ศ. 2548 แนะนำว่าอย่างไรก็ดี ช่วงเวลาของทั้งคู่จะต้องถูกประเมินผลอีกครั้งในการค้นพบเมื่อเร็ว ๆ นี้แสดงให้เห็นว่า นาฬิกาโมเลกุลแบบเก่าที่ใช้วัดเวลานั้นได้กะเวลายุคสมัยของเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาเกินความจริง โดยในความจริง และในการเห็นพ้องกันว่าด้วยเรื่องหลักฐานทางโบราณคดี เป็นเวลาเพียง 15,000 ปีเท่านั้นที่ควรจะเป็นช่วงชีวิตสำหรับความหลากหลายของของสุนัขหมาป่า
สหภาพโซเวียตเคยพยายามนำสุนัขจิ้งจอกมาเลี้ยงให้เชื่อง เช่นในสุนัขจิ้งจอกเงิน และสามารถนำมันมาเลี้ยงได้เพียงแค่ 9 ชั่วอายุของมันหรือน้อยกว่าอายุขัยของมนุษย์ นี่ยังเป็นผลในการเปลี่ยนแปลงด้านอื่น เช่น สี ที่จะกลายเป็นสีดำ สีขาว หรือสีดำปนขาว พวกมันได้พัฒนาความสามารถในการขยายพันธุ์ตลอดปี หางที่โค้งงอมากขึ้น และหูที่ดูเหี่ยวย่น

หมาเฝ้าบ้าน ที่ครอกใหญ่ที่สุด


หมาเฝ้าบ้าน ที่ครอกใหญ่ที่สุด
ได้แก่ ลูกสุนัขพันธุ์ฟ็อกซ์ ฮาวน์ด (Fox hound)ที่แม่ชื่อ Leena (ลีนา) เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธุ์ ค.ศ. 1955 เจ้าของคือ นาวาโท ดับบลิว เอ็น อีลีย์ (W.N.Ely)แห่งเมือง แอมเบเลอร์ รัฐเพนซิลวาเนีย มีลูกถึง 23 ตัว และมีรายงานว่าพันธุ์ เซนต์ เบอร์นาร์ด ตัวหนึ่งก็เคยให้ลูกในครอกเดียว กันถึง 23 ตัว เช่นกัน